ตำรวจดำเนินคดี ประสิทธิ์ เจียวก๊ก เพิ่มหลังพยายามหลบหนีระหว่างการพิจาณาคดีฉ้อโกงประชาชน
พบกลุ่มผู้ต้องสงสัยให้การช่วยเหลือจัดหาเสื้อผ้า หนวดปลอม และที่หลบซ่อน
จากเลขาสาวกับแฟนหนุ่ม และผู้เสียหายที่ต้องการเงินคืน
หลังวานนี้(22ธ.ค.)นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก พยายามหลบหนีระหว่างการพิจารณาคดีในอาญา ด้วยการออกอุบายว่าท้องเสียจึงได้ขออนุญาตไปเข้า ห้องน้ําบริเวณชั้น 9 ของศาลอาญา โดยฉวยโอกาสปลดเครื่องพันธนาการที่ข้อเท้า และทําการ เปลี่ยนเสื้อผ้า พร้อมติดหนวดปลอม ที่มีคนนํามาให้หลังจากนั้นจึงวิ่งหลบหนีออกจากห้องน้ำชั้น 9 แต่ถูกตำรวจศาลตามควบคุมตัวไว้ได้ที่ บริเวณบันไดชั้น 3 ของศาลอาญา
หลังจากนั้นตํารวจกองบังคับการปราบปราม จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตํารวจ สน.พหลโยธิน และ ตํารวจศาล ทําการสืบสวนจนรู้ว่ามีผู้เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น ได้แก่ นายสมประสงค์ฯ (สงวน นามสกุล) อายุ 56 ปี เป็นผู้ที่นําเสื้อผ้ามาให้นายประสิทธิ์ฯ เปลี่ยนในห้องน้ําที่เกิดเหตุ ทั้งที่นายประสงค์ ก็เป็นผู้เสียหายที่ร่วมลงทุนกับนายประสิทธิ์ฯ จํานวนกว่า 10 ล้านบาท แต่ยังคงเชื่อว่าหากไม่แจ้งความร้องทุกข์ และ คอยติดตามช่วยเหลือเรื่องคดีให้นายประสิทธิ์ฯ จะได้รับเงินจํานวนดังกล่าวคืน และยังมีกลุ่มอดีตพนักงาน เป็นเลขาสาวของนายประสิทธิ์ กับแฟนหนุ่ม รวมทั้ง กลุ่มผู้ช่วยทนายความ ให้การช่วยเหลือและรู้เห็นในการวางแผนหลบหนีครั้งนี้และหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐให้การช่วยเหลือ หรืออํานวยความสะดวกให้ผู้ต้องขัง หลบหนี เจ้าหน้าที่จะได้ทําการสืบสวนขยายผลนำผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมาดําเนินคดี
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะทำให้ นายประสิทธิ์ จะมีความผิดฐาน “หลบหนีระหว่างที่ถูกคุมขังตาม
อํานาจของศาล” ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
ส่วนผู้สมรู้ร่วมคิดในการช่วยเหลือนายประสิทธิ์ฯ
เข้าข่ายเป็นความผิดฐาน “ช่วยให้ผู้ที่ถูกคุมขัง ตามอํานาจของศาล
ของพนักงานอัยการ ของพนักงานสอบสวนหลุดพ้นจากการคุมขัง” ต้องระวางโทษ
จําคุก ไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1
แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
ขณะที่ศาลอาญาจะมีการพิจารณาตั้งข้อกล่าวหาผู้ที่เกี่ยวข้องในความผิดฐาน
“ละเมิดอํานาจศาล”
ซึ่งมี โทษจําคุกไม่เกิน 6 เดือนด้วยเช่นกัน
สำหรับคดีที่ทำให้นายประสิทธิ์ ถูกควบคุมตัวมาเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีที่ศาลอาญา
มาจากปี 2564 ตํารวจสอบสวนกลางได้จับกุมและดําเนินคดี
กับนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ในความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกง
ประชาชนและความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ” รวม 6 คดี หลังจากมีพฤติการณ์หลอกลวงประชาชน
ให้ร่วมลงทุนในธุรกิจประเภทต่างๆ เช่น การปล่อยเช่ากระเป๋าแบรนด์เนม ลงทุนซื้อคูปองทอง
ลงทุนซื้อ แพ็กเกจท่องเที่ยว หรือ ลงทุนออมในระบบสหกรณ์ออมทรัพย์
โดยอ้างว่าจะให้ผลตอบแทนจํานวนมาก ซึ่งเป็น
ผลตอบแทนที่สูงเกินความจริงอันจะสามารถประกอบกิจการได้
จนมีกลุ่มผู้เสียหายจํานวนหลายรายเข้ามาแจ้ง ความร้องทุกข์ มีคดีอยู่ระหว่างพิจารณาคดีในชั้นศาลจํานวน
2 คดี
ประสิทธิ์
เจียวก๊ก มักเรียกตัวเองว่า “แจ็คหม่า 2 เมืองไทย”
เป็นนักธุรกิจหลายพันล้านเจ้าของธุรกิจหลายกลุ่มทั้ง เว็บไซต์ พัฒนาซอฟต์แวร์
สายการบิน อสังหาริมทรัพย์ และ นำเที่ยว มีชื่อปรากฏเป็นกรรมการบริษัทนับ 10 แห่ง
มีทุนจดทะเบียนตั้งแต่ 1 – 500 ล้านบาท มีความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับสาธารณชนเรื่อยมา
เช่น
ปี 2561 ถูกคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
หรือ ก.ล.ต. สั่งปรับเป็นเงิน 5 แสนบาท จากกรณีถูกตรวจพบว่าเสนอขายหลักทรัพย์ประเภทหุ้นกู้แก่ประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาต
ปี 2562 เว็บไซต์ของนายประสิทธิ์ ระบุว่า แอ๊ด
คาราบาว ได้แต่งเนื้อร้องและทำนอง เป็นเพลงชื่อ ประสิทธิ์ ผู้ให้
ปี 2563 เคยถูกพาดพิงว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการ”ปั่นแท็ก”ในทวิตเตอร์
ขณะที่ชีวิตส่วนตัวของประสิทธิ์
เจียวก๊ก เกิดที่จังหวัดกระบี่ ครอบครัวมีฐานะยากจน มีนิสัยเกเร ถึงขนาดโดนไล่ออกจากโรงเรียนก่อนเดินทางเข้ามาเรียนต่อในกรุงเทพมหานคร
เริ่มต้นทำธุรกิจรับเหมาต่อเติมบ้านและขายเครื่องแรงดันน้ำ ก่อนมาประสบความสำเร็จในธุรกิจท่องเที่ยวและอสังหาริมทรัพย์
จากนั้นประสิทธิ์จึงเริ่มมีโครงการทำความดีเพื่อสังคมออกมาหลายโครงการ