X
“ไรเดอร์” เสี่ยงตาย-พิการสูง แต่ขาดสวัสดิการจากแพลตฟอร์มเจ้าของเทคโนโลยี

“ไรเดอร์” เสี่ยงตาย-พิการสูง แต่ขาดสวัสดิการจากแพลตฟอร์มเจ้าของเทคโนโลยี

28 เม.ย 2566
720 views
ขนาดตัวอักษร

28 เม..66 - ผลวิจัย พบกลุ่มอาชีพไรเดอร์ มีความเสี่ยงประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงกว่าอาชีพอื่น เจ็บ ตาย และพิการ แต่ขาดสวัสดิการดูแล ขอภาครัฐทบทวนการคุ้มครองสิทธิให้ชัดเจน และเหมาะสม


เปิดผลวิจัยไรเดอร์ หรือพนักงานขับรถขนส่งสิ่งของ พบอุบัติเหตุบนถนน เจ็บ ตาย พิการสูงขึ้น แต่ขาดสิทธิสวัสดิการผู้บาดเจ็บต้องดูแลตัวเอง เนื่องจากเจ้าของแอปฯ ผู้ให้บริการเทคโนโลยี อ้างว่าเป็นแค่พาร์ทเนอร์ ทำให้ขาดสิทธิขั้นพื้นฐานที่ควรมี โดยมูลนิธิชุมชนท้องถิ่นพัฒนา LDI สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ได้เปิดเวทีรับฟังปัญหาและข้อเสนอเชิงนโยบายของกลุ่มแรงงานนอกระบบ ต่อพรรคการเมือง ใน “โครงการพัฒนาความรู้และความเข้มแข็งกลุ่มแรงงานนอกระบบเพื่อสุขภาวะ


ดร.พฤกษ์ เถาถวิล อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี หัวหน้าโครงการศึกษา “งานสวัสดิการไรเดอร์” เปิดเผยว่า ไรเดอร์ หรือพนักงานส่งอาหารผ่านแอปพลิเคชั่น เป็นแรงงานกลุ่มใหม่ที่น่าสนใจ จึงได้ทำการศึกษาโดยเน้นในเรื่องของการเกิดอุบัติระหว่างการทำงาน พบว่าสถิติการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มสูงขึ้น บาดเจ็บ พิการ และเสียชีวิตสูงขึ้นเป็นที่น่าตกใจ สร้างผลกระทบกับทั้งตัวไรเดอร์ คนในครอบครัว และผู้ใช้รถใช้ถนคนอื่น  


แต่ปัญหาไม่ได้เกิดจากตัวไรเดอร์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เกิดจากระบบการทำงานแพลตฟอร์ม ซึ่งจะมีกลยุทธ์อยู่ 3 อย่างคือ

1.อ้างว่าตัวเองเป็นเพียงผู้ให้บริการเทคโนโลยี ที่ไรเดอร์ดาวน์โหลดมาใช้เอง และยอมรับเงื่อนไขการให้บริการเองโดยเรียกไรเดอร์ว่าเป็น “ผู้รับจ้างอิสระ” ส่วนผู้ให้บริการแอปฯ ไม่ใช่นายจ้าง ดังนั้นหากเกิดอะไรขึ้นไรเดอร์ต้องรับผิดชอบตัวเอง 

2.กำหนดการจ่ายค่าจ้างเป็นรายชิ้น และสามารถปรับลดค่ารอบได้

3. มีระบบระบบวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้ หรือที่ไรเดอร์เรียกว่าอัลกอริทึ่มประกอบกับให้ลูกค้าประเมินความพึงพอใจหากไรเดอร์ขยัน ระบบจะประประเมินและจ่ายงานให้มากขึ้น ใครไม่ขยันระบบก็ไม่จ่ายงานให้ 


ทั้งหมดนี้เป็นตัวกระตุ้นให้ไรเดอร์ทำงานทำงานหนักขึ้น ค่ารอบลดลง ก็ต้องวิ่งมากขึ้นเพื่อให้ได้เงินมากขึ้นส่งผลให้เกิดความเครียด อยู่บนถนนวันละกว่า 10 ชั่วโมง “พอรีบก็ขับรถเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นไรเดอร์ต้องรับผิดชอบ หรือไปใช้สิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทองซึ่งล้วนเป็นภาษีของประชาชน” 

ตนไม่ได้บอกว่าไรเดอร์ใช้สิทธิ์ตรงนี้แล้วสิ้นเปลือง แต่ต้องการบอกว่าเจ้าของแอปฯ ไม่ได้จ่ายอะไรเลย เอาแต่ผลประโยชน์ ทั้งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้ให้บริการแอปฯ เหล่านั้นเป็นนายจ้าง แต่เอาเทคโนโลยีมาซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเพื่อปฏิเสธความรับผิดชอบทั้งหมด ดังนั้นเรื่องนี้ผิดที่ผิดทางจึงต้องทำให้ถูก โดยเสนอให้เรายอมรับว่านี่คือการจ้างงานรูปแบบหนึ่ง ที่ต้องได้รับการคุ้มครองสิทธิสวัสดิการ

ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า การที่เจ้าของแอปฯ บอกว่าเป็นเพียงผู้สร้างแอปฯ เท่านั้นไม่ใช่นายจ้าง ถือเป็นตรรกะที่แปลกและคลาดเคลื่อน หากให้โหลดใช้ฟรีถึงจะพูดเช่นนั้นได้ แต่นี่มีการกำหนดขั้นตอนในการทำงาน กำหนดค่าตอบแทนเป็นรายชิ้น และมีสิทธิในการปรับลดค่ารอบได้ “ถือว่าเป็นนายจ้าง” 


รัฐต้องเข้ามาดูแลกำกับดูแล เน้นวิธีที่ทำได้เร็ว เช่นการออกกฎกระทรวง หรือประกาศกระทรวงแรงงาน ส่วนการออกพระราชบัญญัติอาจต้องใช้เวลานานและไม่แน่ว่าจะบังคับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่

ทั้งนี้หากเทียบในหลายประเทศที่มีแรงงานแพลตฟอร์มขับรถส่งอาหาร เช่น ฝรั่งเศส สเปน เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ มีคำพิพากษาของศาลให้แรงงานเหล่านี้อยู่ในสถานะลูกจ้างของแพลตฟอร์ม ในประเทศเยอรมันนี นายจ้างต้องรับผิดชอบจัดให้มีอุปกรณ์การทำงานของไรเดอร์ ค่าชุด ค่ารักษาพยาบาล และต่าง  ขอย้ำว่า รัฐบาลและกระทรวงแรงงานต้องปรับตัวให้เร็ว ทันกับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจ้างงานในปัจจุบันที่คนหันไปทำอาชีพอิสระมากขึ้นหลากหลายขึ้น หรืออีกแนวทางหนึ่งคือส่งเสริมและสนับสนุนให้แรงงานเป็นเจ้าของกิจการเองได้ เช่น ไรเดอร์รวมตัวเป็นหุ้นส่วนสร้างแอปฯ ที่เป็นธรรมขึ้นมา หรือให้แรงงานเป็นกรรมการบริษัทตามสัดส่วนที่กำหนด เป็นต้น

รศ.สมชาย ปรีชาศิลปกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ยืนยันว่า ไรเดอร์คือลูกจ้าง ไม่ใช่พาร์ทเนอร์เพราะขนาดลดค่ารอบเจ้าของแอปฯ ยังสามารถลดได้ฝ่ายเดียว ถือว่ามีนายจ้างลูกจ้างชัดเจน ส่วนตัวมองว่ารัฐควรพัฒนาแพลตฟอร์มมารองรับ หรือหากทำไม่ได้ก็ให้หน่วยงานอื่นดำเนินการพัฒนาแพลตฟอร์มที่ไม่กดขี่ไรเดอร์ ขูดรีดร้านค้า ผู้บริโภค ยิ่งในอนาคตจะยิ่งมีการจ้างงานย่อย  อีกมาก ลูกจ้างต้องได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ทั้งค่าจ้าง ประกันสังคม แรงงานสัมพันธ์ โดยมีนายจ้างเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนตัวคิดว่าช่วงการเลือกตั้งเป็นจังหวะอันดีที่จะเลือกพรรคการเมืองที่มีนโยบายตอบสนอง ต่อปัญหาของแรงงาน 

นายศักดินา ฉัตรกุล  อยุธยา นักวิชาการด้านแรงงาน กล่าวว่า ประเทศไทยมีแรงงานกว่า 39 ล้านคน และอยู่ในระบบประมาณ 10 กว่าล้าน คนที่เหลือเป็นแรงงานนอกระบบที่ไม่ได้รับการคุ้มครอง และนับวันแรงงานนอกระบบยิ่งมากขึ้น ซึ่งตนคิดว่าเรื่องใหญ่ที่ต้องดำเนินการคือส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มแรงงานโดยไม่แบ่งว่าเป็นแรงงานในระบบหรือนอกระบบ หรือใครทำงานอะไร ซึ่งทั่วโลกกำลังทำเรื่องนี้ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มอำนาจในการต่อรอง เพราะปัจจุบันระบบการทำงานที่เปลี่ยนไป ทำให้แยกแรงงานออกจากกัน รวมตัวกันยาก และทำให้ความแตกต่างกันนั้นมีความชอบธรรมขึ้นเรื่อย  

ในประเทศไทยมีการรวมตัวเป็นสหภาพแรงงานน้อยมากในโลก เพียง 1.5% ดังนั้นต้องผลักดันเรื่องนี้ในเชิงนโยบายทำให้เกิดความชัดเจน และปรับปรุงกฎหมายที่ใช้ในปัจจุบันที่ออกมาในยุค 2.0 ให้สอดรับกับการจ้างงานปัจจุบันโดยรื้อทั้งหมด ไม่ใช่แค่การปะผุ รวมถึง ...แรงงานสัมพันธ์ และพ...แรงงานนอกระบบ เพื่อทำให้แรงงานทุกกลุ่มรวมตัวกัน และได้รับสิทธิเท่าเทียม

อ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ..คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เขียนเลย
Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)