หนังสือ “จินดามณี” เป็นหนังสือแบบเรียนเล่มแรกของไทยที่ใช้ในการสอนหนังสือแต่งโดยพระโหราธิบดี เชื่อกันว่าใช้มาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ชื่อที่ปรากฏเขียนแตกต่างกันเป็น จินดามนี จินดามุนี บ้าง แต่ที่ถูกต้องคาดว่าคือ “จินดามณี” ที่เป็นชื่อแก้วสารพัดนึกอย่างหนึ่ง ดังปรากฏในโคลงบทท้ายหนังสือ ฉบับที่พระโหราธิบดีแต่ง ดังนี้
ลิขิตวิจิตรด้วย ศุภอรรถ
ด่งงมณีจินดารัตน เลอศแล้ว
อันมีศิริสวัสดิ โสภาคย์
ใครรู้คือได้แก้ว ค่าแท้ควรเมืองฯ
อย่างไรก็ตาม หนังสือจินดามณี ไม่ได้มีฉบับเดียวเนื่องจากมีการปรับปรุงแบบเรียนให้สอดคล้องกับยุคสมัย โดยยึดต้นแบบจากหนังสือจินดามณีของพระโหราธิบดีเป็นมาตรฐานดังต่อไปนี้
- จินดามณี เล่ม 1 ฉบับพระโหราธิบดี
- จินดามณี เล่ม 2 ฉบับพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท
- บันทึกหนังสือเรื่องจินดามณี ของนายธนิต อยู่โพธิ์ (อดีตอธิบดีกรมศิลปากร)
- จินดามณีฉบับพระเจ้าบรมโกศ โดยนายขจร สุขพานิช นำมาจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
หนังสือจินดามณีใช้ในการเรียนอย่างแพร่หลาย แต่เนื่องด้วยยังไม่มีวิทยาการการพิมพ์ ทำให้ต้องคัดลอกต้นฉบับสืบต่อกันเพื่อเรียนรู้ ทำให้สำนวนต่าง ๆ คลาดเคลื่อนไปบ้าง นายธนิต อยู่โพธิ์ (อดีตอธิบดีกรมศิลปากร) ได้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้พบว่า หนังสือจินดามณีฉบับพระโหราธิบดีนั้น มีสำนวนที่คลาดเคลื่อนออกไปแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
1. จินดามณีฉบับความพ้อง เป็นหนังสือจินดามณีที่มีใจความส่วนใหญ่พ้องกันอาจมีส่วนที่แตกต่างกันบ้าง เข้าใจว่าเป็นฉบับที่คัดลอกมาจากจินดามณีของพระโหราธิบดี แต่อาจจะคัดลอกตกหล่นแล้วเติมเฉพาะส่วนลงไปโดยไม่ได้มีเจตนาให้แตกต่างจากต้นฉบับ
2. จินดามณีฉบับความแปลก เป็นหนังสือจินดามณีที่มีเนื้อความแตกต่างไปจากฉบับความพ้องเป็นอย่างมาก อาจมีการแต่งเสริมเพิ่มหรือตัดบางตอนจากจินดามณีฉบับความพร้อมออกไป
3. จินดามณีฉบับกรมหลวงวงษาธิราชสนิท (สมัยรัชกาลที่ 3) เป็นฉบับที่แต่งเลียนแบบจินดามณีฉบับพระโหราธิบดี แต่ปรับปรุงให้เข้าใจง่ายขึ้น เพื่อใช้สอนพระราชโอรสและพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3)
4. จินดามณีฉบับหมอบรัดเล เป็นฉบับที่รวบรวมหนังสือแบบเรียนพิมพ์รวมเล่มไว้ ทั้งจินดามณี ประถม ก.กา ประถมมาลา และปทานุกรม อีกทั้งยังมีการเพิ่มคำอธิบายไว้ในเล่มนี้อีกด้วย
เนื้อหาของจินดามณีแบ่งเนื้อหาออกเป็น 2 ส่วน คือ เป็นแบบเรียนสำหรับผู้ที่เริ่มศึกษาอักษรไทย และส่วนที่เป็นตำราชั้นสูงในตอนที่เกี่ยวข้องกับฉันทลักษณ์ เนื้อหาที่อยู่ในหนังสือจินดามณีนั้น เป็นตำราสรุปย่อช่วยจำมากกว่าแบบฝึกหัด โดยเนื้อหาภายในสรุปคร่าว ๆ ได้ ดังนี้
1. อักษรศัพท์
เป็นการรวบรวมคำที่เขียนยาก อ่านยาก หรือคำที่มักเขียนผิดเอาไว้เป็นหมวดหมู่ เพื่อให้นักเรียนทบทวน แต่ไม่ได้มีคำอธิบายเอาไว้
- ภาพต้นฉบับลายมือหนังสือจินดามณี, ไหว้ครู, อักษรศัพท์. (วิวัฒนาการหนังสือแบบเรียนภาษาไทย, น. 38)
2. การใช้ ศ ษ ส
เริ่มต้นด้วยการไหว้ครูและอธิบายการใช้ ศ ษ ส ด้วยฉันท์ 14 (วสันตดิลก) ตอนท้ายเป็นการอธิบายและตัวอย่างการใช้สระ ไอ และ ใอ จบด้วยการใช้ ฤ ฤา ฦ ฦา ในการประพันธ์โคลง ฉันท์
3. การแจกลูกอักษร
จะอธิบายสระ พยัญชนะ การผสมอักษร และการผันเสียงวรรณยุกต์โดยละเอียด
4. การอธิบายตัวสะกด
มีข้อความอธิบายเป็นโคลงสี่สุภาพถึงตัวสะกด และคำอธิบายความเรียงอีกเล็กน้อยที่เป็นผู้อื่นแต่งเพิ่มเติม
5. อธิบายการแต่งคำประพันธ์
เป็นการอธิบายการแต่งโคลงที่รวมอยู่กับส่วนที่อธิบายการแต่ง ฉันท์ ซึ่งเป็นส่วนที่มีความยาวมากกว่าตอนอื่น โดยในส่วนที่เป็นคำประพันธ์นี้ ว่ากันว่าพระโหราธิบดีต้องการให้เป็นตำราวิชาการชั้นสูงสำหรับผู้ที่สนใจหรือรักในเรื่องกวีนิพันธ์
หนังสือจินดามณีใช้เป็นแบบเรียนไทยมาอย่างยาวนาน และได้ยกเลิกใช้ไปในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) ได้แต่งหนังสือมูลบทบรรพกิจเป็น “แบบเรียนหลวง” นั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก
- กรมศิลปากร. (2561). จินดามณี เล่ม 1 และ จินดามณี ฉบับใหญ่ บริบูรณ์. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ : สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร.
- ธวัช ปุณโณทก. (2538). วิวัฒนาการหนังสือแบบเรียนภาษาไทย. (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง.