X
ลองรึยัง ตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า ทางเลือกใหม่การเดินทางของคนกรุง

ลองรึยัง ตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า ทางเลือกใหม่การเดินทางของคนกรุง

16 ม.ค. 2566
1640 views
ขนาดตัวอักษร

16 ..66 - มูฟมี ตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า อาสาเป็นทางเลือกใหม่การเดินทางของคนกรุงฯ รถพลังานไฟฟ้า ประหยัด รักษ์สิ่งแวดล้อม พร้อมให้บริการต้อนรับการท่องเที่ยววิถีใหม่ “เที่ยวได้ ลดมลพิษด้วย


สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชนหรือ NIA โชว์เคสยานยนต์ไฟฟ้าสตาร์ทอัพไทย เอาใจกระแสรถไฟฟ้าที่กำลังมาแรงใน .นี้  หลังปีที่ผ่านมานวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกมีการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยคาดว่าตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในปี 2566 จะมีโอกาสเติบโตสูงขึ้นทั้งส่วนการผลิตรถยนต์และยอดจำหน่ายนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในราคาที่เข้าถึงได้ 


มูฟมี” (MUVMI) นวัตกรรมที่ได้รับการสนับสนุนจาก NIA เป็นรถตุ๊กตุ๊กพลังงานไฟฟ้า 100% ที่เริ่มให้บริการผู้โดยสารใน กทมมาแล้วกว่า 2 ล้านเที่ยวเดินทาง ซึ่งมีแผนเพิ่มจำนวนรถอีก 1,000 คัน ซึ่งทั้งหมดมีการใช้งานจริงในเขตเมืองและหัวเมืองท่องเที่ยว


ดร.กฤษดา กฤตยากีรณ กรรมการผู้บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท เออร์เบิน โมบิลิตี้ เทค จำกัด และผู้ก่อตั้งธุรกิจให้บริการรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้ามูฟมี กล่าวว่า ปัญหาการจราจรในเมืองใหญ่สามารถแก้ไขได้จากการใช้ขนส่งมวลชน นี่คือโจทย์ที่ทำให้มูฟมี ได้ผลิตรถตุ๊กตุ๊กขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า 100% ที่มีระบบควบคุมการขับขี่แบบ In Car Application ทำให้ทุกการเดินทางปลอดภัย สะดวกสบาย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะไม่มีท่อไอเสียจึงช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกิดจากการเผาไหม้น้ำมันเครื่องยนต์ หรือ PM 2.5 


ปัจจุบันมูฟมี มีรถตุ๊กตุ๊กแบบ EV จำนวน 250 คัน ให้บริการรับ – ส่งผู้โดยสารตามแนวรถไฟฟ้า เข้าซอยหรือไปบริเวณใกล้เคียง ครอบคลุมพื้นที่ 10 ย่านทั่วกรุงเทพ เช่น ย่านจุฬาลงกรณ์-สยาม ย่านอารีย์-ประดิพัทธ์ เกาะรัตนโกสินทร์ บางซื่อ ชิดลม-ลุมพินี อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นต้น 


โดยมีจุดเด่นคือเรียกใช้บริการผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ สามารถแชร์เส้นทางร่วมกับคนอื่นได้ด้วยบริการในระบบRide Sharing เดินทางไปไหนก็ง่าย ใช้ได้ทุกวัน ราคาย่อมเยาคิดตามระยะทางจริง เริ่มต้นที่ 10 บาท ตลอดระยะเวลาปี ได้ให้บริการผู้โดยสารแล้วกว่า 2 ล้านเที่ยวเดินทาง


มูฟมี ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีเป็นของตัวเอง ทั้งการออกแบบตัวรถโดยสารที่จดสิทธิบัตรไปแล้ว และการออกแบบจุดชาร์จรถไฟฟ้าโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่สามารถชาร์จไฟฟ้ากระแสตรงจากแผงโซลาร์ตรงเข้ารถโดยมีสมองกลในรถคอยควบคุมกระแสไฟซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการจดลิขสิทธิ์ เพื่อให้เกิดความได้เปรียบทางธุรกิจอย่างยั่งยืน 


ในปี 2566 นี้ มูฟมียังคงพัฒนาต่อไปไม่หยุดนิ่ง ทั้งในแง่บริการและการพัฒนาเทคโนโลยี โดยตั้งเป้าจะเพิ่มจำนวนรถโดยสารเป็น 1,000 คัน พร้อมขยายโซนให้บริการใหม่เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ มากที่สุด เช่น สีลม-สาทรและรัชดา-พระราม 9 รวมถึงขยายการให้บริการไปยังหัวเมืองหลักๆ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต ทั้งในส่วนของการให้บริการแบบ B2C และ B2B ซึ่งการดำเนินงานที่ตั้งไว้จะสำเร็จได้ต้องอาศัยแรงสนับสนุนจากพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนมาช่วยขับเคลื่อนให้กลยุทธ์การขยายด้านบริการมีประสิทธิภาพมากขึ้น


ด้านนายวิเชียร สุขสร้อย รองผู้อำนวยการด้านเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชนเปิดเผยว่า หลายประเทศทั่วโลกตื่นตัวกับวิกฤตด้านพลังงานและผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รุนแรง ส่งผลให้ธุรกิจเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการผลิตสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle : EV) เติบโตต่อเนื่อง ทั้งปริมาณการผลิตและจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด 


ตัวเลขการจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าจากรมการขนส่งทางบก พบว่าตั้งแต่เดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ประเทศไทยมียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้ารวมทั้งหมด 15,423 คัน ซึ่งมากกว่ายอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าย้อนหลังรวม 10 ปี(ปี 2555 – 2564) ที่มีการจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 11,749 คัน “สถิติดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยมีแนวโน้มเติบโตขึ้น 


โดย NIA คาดว่าในปี 2566 การเติบโตส่วนใหญ่จะมุ่งไปที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคล การพัฒนารูปแบบยานพาหนะไฟฟ้าที่ไม่จำกัดแค่เพียงรถยนต์นั่ง เช่น ตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า เรือ - รถโดยสารสาธารณะ รวมไปถึงกลุ่มเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เช่น สถานีชาร์จแบตเตอรี่ไฟฟ้า โฮมชาร์จเจอร์ การบริหารจัดการการจ่ายกระแสไฟฟ้าของแบตเตอรี่ แอปพลิเคชันบริการรถรับส่งที่ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อน” 

จากโอกาสและศักยภาพในการเติบโตของอุตสาหรรมด้านพลังงานสะอาด และกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีที่เกี่ยวเนื่อง NIA จึงได้เลือกให้เป็นสาขาที่อยู่ภายใต้โครงการนวัตกรรมแบบมุ่งเป้า (Thematic Innovation) จากทั้งหมด 6 สาขา ได้แก่ 1) อาหารมูลค่าสูงสำหรับส่งออก 2) ความมั่นคงทางอาหาร 3) เศรษฐกิจการหมุนเวียนและเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ 4) พลังงานสะอาด 5) ธุรกิจดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยีด้านปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และเทคโนโลยีโลกเสมือน หรือ ARI Tech และ 6) กลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีที่เกี่ยวเนื่อง โดยจะสนับสนุน “เงินทุนให้เปล่า” วงเงินสูงสุดไม่เกินโครงการละ 5 ล้านบาท ครอบคลุมทั้งการพัฒนาต้นแบบนวัตกรรมและทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานนวัตกรรมในสภาพแวดล้อมจริง โดยต้องมีความเป็นนวัตกรรมระดับประเทศ และสามารถสร้างผลกระทบเชิงเศรษฐกิจได้ 

ซึ่งจากการเปิดรับข้อเสนอโครงการในปีที่ผ่านมาพบว่ามีผู้ประกอบการฐานนวัตกรรมให้ความสนใจขอรับการสนับสนุนกว่า 236 ราย จาก 6 สาขา แต่แบ่งเป็นสาขาพลังงานสะอาด 18 ราย สาขากลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีที่เกี่ยวเนื่อง 49 ราย นอกจากนี้ NIA ยังพร้อมจะช่วยสร้างโอกาสและเชื่อมโยงนวัตกรรมดังกล่าวไปสู่ตลาดที่เกี่ยวข้อง เช่น การท่องเที่ยว การคมนาคม อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า การระดมทุน ฯลฯ เพื่อให้เกิดการเติบโตในระดับที่สูงขึ้นและยั่งยืน เช่น 

  • โครงการสามล้อไฟฟ้าเดลิเวอรี่ (บริษัท บิซ เน็กซ์ มอเตอร์ จำกัดบริการรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้ามูฟมี (บริษัท เออร์เบินโมบิลิตี้ เทค จำกัดและโครงการเรือไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (ห้างหุ้นส่วนจำกัด นาวาเลียน คอมโพสิทเป็นต้น ตอกย้ำภาพลักษณ์ประเทศในฐานะ “ศูนย์กลางการผลิตและส่งออกรถยนต์ในภูมิภาค
อ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ..คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เขียนเลย
Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)