21 ก.ย.66 - เตรียมรอชมโฉมใหม่ “หาดส้มแป้น” ปรับภูมิทัศน์ใหม่ ปลัดมหาดไทย ย้ำผู้ว่าฯ ต้องเป็นผู้นำบูรณาการ7 ภาคีเครือข่าย เพื่อทำให้ "ระนอง" เป็นพื้นที่แห่งความสุขที่ยั่งยืน
ที่ลานอนุสาวรีย์พระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คอซู้เจียง) ต.เขานิเวศน์ อ.เมืองระนอง จ.ระนอง นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานโครงการปรับภูมิทัศน์หาดส้มแป้น
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นำคณะผู้บริหารระดับสูง สักการะอนุสาวรีย์พระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คอซู้เจียง) เจ้าเมืองระนองคนแรก ที่ได้รับราชการสนองพระเดชพระคุณตั้งแต่รัชสมัยสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จนถึงรัชสมัยสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ที่มีบทบาทอย่างมากในการพัฒนาเมืองระนองให้เจริญก้าวหน้า กลายเป็นเมืองชั้นเอกของประเทศ
ปลัดกระทรวงมหาดไทย และคณะ รับฟังบรรยายสรุปและเดินตรวจเยี่ยมการดำเนินโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดส้มแป้น โดยมีนายอัครพล ผลพานิชย์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดระนอง นำชมพร้อมบรรยายสรุป โดยกล่าวว่า กรมโยธาธิการและผังเมืองได้ดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดส้มแป้น งบประมาณ 49.46 ล้านบาท ปัจจุบันการดำเนินการแล้วเสร็จ โดยมีรายละเอียดการปรับปรุง 5 รายการ คือ
1) เขื่อนป้องกันตลิ่ง ระยะทาง 902 เมตร
2) ทางเดิน-ทางวิ่ง ความกว้าง 2 เมตร ระยะทาง 700 เมตร
3) ทางจักรยาน ความกว้าง 2 เมตร ระยะทาง 700 เมตร
4) บันไดทางขึ้น-ทางลง
5) ทางลาดเสมอภาค (อารยสถาปัตย์)
6) ลานลอยกระทงพื้นที่ 2,000 ตารางเมตร
7) รางกันตก
8 ) ระบบไฟฟ้าส่องสว่าง
โดยเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ต่อเนื่องจากบ่อน้ำพุร้อนรักษะวาริน เพื่อเชื่อมระหว่างบ่อน้ำพุร้อนรักษะวารินมายังร้านอเนกประสงค์เทศบาลเมืองระนอง เป็นการเชื่อมโยงรูทเส้นทางการท่องเที่ยว ทั้งการแช่น้ำ แช่ตัว และพักผ่อน สันทนาการ ตามธรรมชาติ สไตล์วิถีการท่องเที่ยวเมืองระนอง
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในวันนี้เป็นการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทยในพื้นที่จังหวัดระนอง ซึ่งการดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดส้มแป้นในพื้นที่แห่งนี้เป็นการดำเนินการตามนโยบายกระทรวงมหาดไทยที่ได้น้อมนำพระราชปณิธานอันแน่วแน่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมุ่งมั่นจะทำให้ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธานภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” เพื่อความอยู่ดีมีสุขของประชาชน และพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้า
ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้น้อมนำพระราชดำริในการฟื้นฟูบูรณะแม่น้ำคูคลองในพื้นที่จังหวัด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะ “นายกรัฐมนตรีของจังหวัด” ต้องเป็นผู้นำในการลุกขึ้นมา “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” แก้ไขในสิ่งผิดและทำสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้น เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน ด้วยการบูรณาการกับส่วนราชการในพื้นที่และร่วมกับภาคีเครือข่ายประชาชน และทุกภาคส่วน คัดเลือกแม่น้ำคูคลอง ปีละ 1 สาย เพื่อเป็นพื้นที่ในการจัดกิจกรรมจิตอาสา สร้างจิตสำนึกในการดูแลสิ่งแวดล้อม พร้อมจับมือร่วมกันขับเคลื่อนขยายผลโครงการอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำคูคลองเพิ่มเติม โดยยังคงพัฒนาลำน้ำสายเดิมอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ลำน้ำครบทุกสายเป็นพื้นที่แห่งความสุขอย่างยั่งยืนให้กับประชาชนในพื้นที่
"ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ได้ส่งเสริมพัฒนาและต่อยอดการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดส้มแป้นแห่งนี้เพิ่มเติม เพื่อให้พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่แห่งความยั่งยืน ที่ส่งผลดีต่อพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดระนองเพิ่มพูนขึ้น โดย
1) ในเชิงระบบ ต้องส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มจิตอาสาของกลุ่มวิชาชีพด้านการออกแบบก่อสร้าง เช่น สถาปนิกจิตอาสา นักผังเมืองจิตอาสา ซึ่งกระทรวงมหาดไทยจะได้มอบหมายให้กรมโยธาธิการและผังเมืองส่งเสริมให้เกิดในทุกพื้นที่
2) ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องเป็นผู้นำภาคีเครือข่ายทั้ง 7 ภาคีเครือข่าย ร่วมกันทำกิจกรรมจิตอาสา ซึ่งอาจไม่ต้องใช้งบประมาณของทางราชการ เช่น พัฒนาริมถนน พื้นที่สาธารณะอื่น ๆ ให้สวยงาม มีคุณประโยชน์กับส่วนรวม เช่น ริมคลองมีการปลูกต้นดาหลา ปลูกต้นไม้ที่ชอบน้ำ บนภูเขาเติมไม้ยืนต้นให้ดอกสวยงาม เช่น หางนกยูง ปีบ ริมถนนปลูกต้นบานไม่รู้โรย เฟื่องฟ้าพุ่ม รวมทั้งน้อมนำแนวพระราชดำริในการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี "ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน" ปลูกพืชผักสวนครัวไม้ผล ไม้กินได้ พืชประจำถิ่นระนอง บริเวณเกาะกลางถนน และริมถนน
3) ผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องส่งเสริมให้โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดและท้องถิ่นจังหวัด ได้สนับสนุนองค์ความรู้และแนวทางด้านอารยสถาปัตย์ ให้กับผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ธุรกิจร้านอาหาร และแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ เพื่อให้พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ที่เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มและรองรับสังคมผู้สูงอายุ
4) ส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมกีฬาและสันทนาการทางน้ำ เพื่อเสริมสร้างพลังความรู้รักสามัคคีของพี่น้องประชาชนในพื้นที่
5) รณรงค์ส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ทั้งด้านการบริหารจัดการขยะ และการแก้ไขปัญหาน้ำเสีย ผ่านกลไกอาสาสมัครท้องถิ่นรักษ์โลก (อถล.) ทำให้ทุกครัวเรือนมี อถล. และมีการติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียครัวเรือน เพื่อให้มีการบำบัดน้ำเสียตั้งแต่ต้นทาง ลดผลกระทบที่จะทำให้เกิดน้ำเสียในลำน้ำคูคลองสาธารณะต่อไป
6) ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว หอการค้าจังหวัด ได้นำเรื่องราวชื่อบ้านนามเมือง มาเรียบเรียงในลักษณะStory Telling และจัดทำ route เส้นทางการท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงกัน เพื่อทำให้นักท่องเที่ยวสามารถท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดระนองได้อย่างต่อเนื่อง สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่" นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติม
เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการร่วมกันดูแลพื้นที่แห่งนี้ให้เป็นพื้นที่แห่งความยั่งยืน ขอให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดได้บูรณาการทุกภาคีเครือข่ายในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าราชการทุกคนในฐานะข้าราชการที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการน้อมนำหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทำให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมพูดคุยปรึกษาหารือ ร่วมคิด ร่วมทำ และร่วมรับประโยชน์ อย่างสม่ำเสมอ ต่อเนื่อง เพื่อทำให้พื้นที่จังหวัดระนองเป็นพื้นที่แห่งความสุขที่ยั่งยืนของพี่น้องประชาชนตลอดไป