หลังจากกระทรวงสาธารณสุข ได้ปลดล็อก “กัญชา-กัญชง” ออกจากบัญชียาเสพติด ประเภทที่ 5 เมื่อ 9 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ส่วนต่าง ๆ ของ “กัญชา-กัญชง” ไม่มีสถานะเป็นยาเสพติดอีกต่อไปนั้น สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลไทยหลายแห่ง ก็ได้ออกมาประกาศเตือนผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศเกี่ยวกับการนำเข้า การใช้ กัญชา-กัญชง รวมทั้งที่มีส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เนื่องจากยังผิดกฎหมายอยู่นั้น วันนี้ #BackboneMCOT ได้รวบรวมข้อมูลมาฝากทุกคนแล้วว่า ประเทศไหนบ้างที่ “กัญชา-กัญชง” ผิดกฎหมาย ห้ามนำเข้า ไปดูกันเลย
ญี่ปุ่น
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว
ห้ามนำเข้า กัญชา-กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของพืชชนิดดังกลาวเข้ามาในประเทศญี่ปุ่น หากฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมายญี่ปุ่น
- มีไว้ในครอบครองเพื่อนำเข้าและส่งออก มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี
- มีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และไม่เกิน 3 ล้านเยน
เกาหลีใต้
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล เตือนคนไทยที่จะเดินทางมาหรือพำนักอาศัยอยู่ในเกาหลีใต้ “ห้ามนำเข้า” กัญชา กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของพืชชนิดดังกล่าวเข้ามาในประเทศเกาหลีใต้
หากฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมายเกาหลีใต้
- ลักลอบนำเข้า มีโทษจำคุก 5 ปีขึ้นไป หรือตลอดชีวิต
- ปลูกหรือจำหน่าย มีโทษจำคุกอย่างน้อย 1 ปี
- มีไว้ในครอบครองหรือเสพ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี
และถูกเนรเทศและห้ามเดินทางเข้าเกาหลีใต้อีก
จีน
สถานทูตจีนประจำประเทศไทย เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้กัญชาของชาวจีนที่อยู่ในประเทศไทยเอาไว้ ดังนี้
การนำกัญชาหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชาไปใช้ในประเทศจีนหรือบทลงโทษจากประเทศจีนเกี่ยวกับการใช้กัญชา ซึ่งในส่วนนี้สถานทูตจีน ระบุว่า การสูบกัญชา หรือบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มีกัญชาเป็นส่วนผสมของคนจีนขณะที่อยู่ในประเทศไทย แต่ถูกตรวจพบเมื่อกลับมาถึงประเทศจีน จะเท่ากับเป็นการใช้กัญชาในประเทศจีน มีผลต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย โดยการสูบหรือบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มีกัญชา จะทำให้มีสารตกค้างในร่างกาย จึงสามารถตรวจหาสารเสพติดได้
กฎหมายอาญา มาตรา 357 ของประเทศจีน ระบุไว้ว่า “กัญชาเป็นยาเสพติด” การปลูก แปรรูป บริโภค และขายกัญชาในจีนเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ส่วนสาร THC ก็จัดเป็น ยาเสพติด เช่นกัน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่มีสาร THC หรือการนำกัญชาเข้ามาประเทศจีน ล้วนเป็นความผิดอาญาทั้งหมด
ออสเตรเลีย
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ ขอแจ้งเตือนคนไทย “ห้ามนำเข้า” กัญชา กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของพืชชนิดดังกล่าว เข้ามาในประเทศออสเตรเลีย
การนำเข้ามาในประเทศโดยมิชอบด้วยกฎหมายของ NSW ถือเป็นความผิด มีโทษสูงสุดถึง “จำคุกตลอดชีวิต”
หมายเหตุ : การนำยารักษาโรคที่มีส่วนประกอบของกัญชาเข้ามานั้นจะขึ้นกับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ ขอให้ท่านพกใบสั่งยา หรือจดหมายจากแพทย์ติดตัวมาด้วย
สหราชอาณาจักร
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน ได้เผยแพร่ข้อมูลสำคัญสำหรับผู้เดินทางชาวไทยเกี่ยวกับกัญชา กัญชง ว่า “ห้ามนำเข้า กัญชา กัญชง”
กฎหมายของสหราชอาณาจักร ห้ามนำเข้ากัญชา กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากการสกัดของพืชดังกล่าว หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 5-14 ปี หรือปรับ หรือทั้งจำและปรับ
อินโดนีเซีย
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ขอแจ้งเตือนคนไทย “ห้ามนำกัญชา กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของพืชชนิดดังกล่าว เข้ามาในประเทศอินโดนีเซีย”
หากฝ่าฝืน มีโทษตามกฎหมายอินโดนีเซีย
- ปรับขั้นต่ำ 1 พันล้านรูเปียห์
- จำคุก 5 ปี - ตลอดชีวิต
- หรือโทษสูงสุดประหารชีวิต
ขอให้ใช้ความระมัดระวังในการรับฝากสิ่งของจากผู้อื่นมายังประเทศอินโดนีเซียด้วย
สิงคโปร์
แจ้งเตือนคนไทย “ห้ามนำเข้ากัญชา กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของพืชดังกล่าวเข้ามาในประเทศสิงคโปร์”
หากฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมายสิงคโปร์
- มีไว้ครอบครองหรือเสพ จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ลักลอบค้า นำเข้า หรือส่งออก ผู้กระทำผิดอาจได้รับ “โทษประหารชีวิต”
เวียดนาม
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย
เตือนห้ามนำกัญชาและสารสกัดที่มีส่วนผสมของกัญชาทุกชนิดเข้าเวียดนาม “รวมถึงห้ามใช้ทางการแพทย์และใช้ในชีวิตประจำวัน”
กัญชาและสารสกัดจากกัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษ ตามกฎหมายเวียดนาม ผู้ที่มีในครอบครอง (ทั้งเพื่อเสพและจำหน่าย) มีความผิด ปรับตั้งแต่ 5,000,000-500,000,000 ดอง และจำคุกตั้งแต่ 2 ปี จนถึงโทษประหารชีวิต
UAE
UAE ประกาศแก้ไขกฎหมายยาเสพติดมีผลใช้บังคับในเดือน ม.ค. 2565 เพื่อดำเนินคดีทางอาญาต่อผู้ครอบครองผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากกัญชา (สารประกอบ THC หรือผลิตภัณฑ์ กัญชาทางการแพทย์ และอาหารบางชนิด เช่น ผลิตภัณฑ์จากกัญชง) จะถูกยึดและทำลายแทนโดยไม่มีการลงโทษสำหรับการครอบครองครั้งแรก และจะถูกดำเนินคดีหากทำความผิดซ้ำ แต่ผู้ที่ครอบครองบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ที่มีสารสกัดจากกัญชา เช่น น้ำมัน CBD จะยังคงถูกดำเนินคดีทางอาญาต่อไป
สหรัฐอเมริกา
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ขอแจ้งชาวไทยที่พกยา สมุนไพร อาหารเสริม สารสกัด หรือเวชภัณฑ์ใด ๆ เดินทางมายังสหรัฐฯ ขอให้มีฉลากภาษาอังกฤษระบุส่วนประกอบอย่างชัดเจน โดยไม่ควรนำยาหรือเวชภัณฑ์ใด ๆ ที่มีส่วนประกอบของกัญชาและสารต้องห้ามติดตัวมาด้วย
ตรวจสอบและศึกษาข้อมูลรายการสิ่งของต้องห้ามนำเข้าสหรัฐฯ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.cbp.gov/travel/us-citizens/know-before-you-go/prohibited-and-restricted-items