X
จัดใหญ่ระดับเวิลด์คลาส งานเทศกาลสงกรานต์ปี68

จัดใหญ่ระดับเวิลด์คลาส งานเทศกาลสงกรานต์ปี68

26 ก.พ. 2568
2810 views
ขนาดตัวอักษร

นายกฯ เปิดโครงการ “Thailand Summer Festivals” ตอกย้ำเสน่ห์วัฒนธรรมไทย ย้ำงานสงกรานต์ ปีนี้รัฐบาลจัดยิ่งใหญ่ระดับเวิลด์คลาส พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก


นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “Thailand Summer Festivals” ความมหัศจรรย์ของเมืองไทยภายใต้แนวคิด “7 Months 7 Wonders Summer Festivals”  อัดแน่นเทศกาลงานประเพณีใน 7 หมวดหมู่ ได้แก่ เทศกาลสงกรานต์  เทศกาล Pride เทศกาลทางวัฒนธรรม ดนตรี กีฬา อาหาร และเทศกาลเชิงศิลปะและความสร้างสรรค์ หวังสร้างสีสันปลุกความคึกคักให้ท่องเที่ยวไทย ลดช่องว่างโลว์ซีซั่นให้ท่องเที่ยวได้อย่างต่อเนื่องตลอด 7 เดือน ระหว่างเดือนมีนาคม   - กันยายน 2568  โดยมี นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม  นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย  นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมทั้ง 14 สาขา และผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงาน


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  รัฐบาลมีความตั้งใจให้ภาคการท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ซึ่งคิดเป็นกว่าร้อยละ 14 ของ GDP โดยตั้งเป้ายกระดับให้ประเทศไทย เป็นจุดหมายปลายทางที่สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ทั้งช่วง Low Season ที่เต็มด้วยเทศกาล งานประเพณี ความเชื่อ สำหรับ Thailand Summer Festival รัฐบาล ได้รวบรวมหลากหลายเทศกาลและกิจกรรมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวสู่ทุกภูมิภาคของประเทศ ครอบคลุมทั้งเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้อย่างทั่วถึง สะท้อนความเป็นไทยได้อย่างน่าสนใจในทุกภาคทุกจังหวัด  และให้ทั้ง  12 เดือน เป็นทุกเดือนที่ท่องเที่ยวได้ไม่ต้องมีช่วง Low Season  นอกจากนี้ เป็นการควบคุมราคาโรงแรมไม่ให้ตกต่ำเกินไป ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลจะผลักดันให้เต็มรูปแบบ   โดยมีงาน Maha Songkran World Water Festival 2025 ณ ท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 11 - 15 เมษายน 2568 จะเป็นไฮไลต์สำคัญที่มุ่งยกระดับประเพณีสงกรานต์ของไทย จากการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของ UNESCO ก้าวสู่ระดับ World Event อย่างแท้จริง ซึ่งในปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวกว่า 1.5 ล้านคน เดินทางมาเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 67 เพิ่มขึ้นจากปี 66 ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ และในปีนี้รัฐบาลยังคงเดินหน้ายกระดับศักยภาพประเทศไทย ผลักดันอัตราการเติบโตของการท่องเที่ยว ทั้งในแง่ของจำนวนและรายได้ของประชาชนอย่างต่อเนื่อง


นายกรัฐมนตรี เชิญชวนคนไทยร่วมกันเฉลิมฉลองกับงาน Thailand Summer Festivals ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่จะช่วยสร้างบรรยากาศแห่งความสนุกสนานและความมหัศจรรย์ในหลายเทศกาล หากช่วง Summer Festival ประสบความสำเร็จในการดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ก็จะส่งผลต่อ Winter Festival ในปลายปี ที่จะมีนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น ในช่วงฤดูหนาว อีกทั้ง ต้องมีการโปรโมทหรือการประชาสัมพันธ์อย่างเต็มรูปแบบให้ดี และใส่กิจกรรมเพิ่มเติม ทำให้นักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น  ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ GDP เพิ่มขึ้น 


“รัฐบาลตั้งเป้าหมายการท่องเที่ยวในภาพใหญ่ โดยต้องการเพิ่มจำนวน นักท่องเที่ยวจาก 36 ล้านคนในปีที่แล้ว เป็น 38 ล้านคน หรือถ้าจะให้ดีก็หวังให้จำนวน นักท่องเที่ยวทะลุ 40 ล้านคน ตลอดทั้งปี รวมถึง ความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวต้องมีมากขึ้น   โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจท่องเที่ยว และ อาสาสมัครชาวต่างชาติ ที่เข้ามาช่วยดูแลนักท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งเป็นกำลังสำคัญ ในการทำให้การท่องเที่ยวไทยเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย” นายกรัฐมนตรี ระบุ 


นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า  รัฐบาลต้องการผลักดันศักยภาพของประเทศไทย ให้กลับไปสู่จุดเดิมก่อนที่เกิดวิกฤต  โควิด-19 และพัฒนาให้มากขึ้นไป โดยการเพิ่มจำนวนและรายจ่ายของนักท่องเที่ยว ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินการพัฒนา เพื่อให้รายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น การจัดงานอีเวนต์ที่จัดขึ้นได้สร้างกระแส  สร้างความน่าสนใจให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเที่ยวประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลให้การสนับสนุน Soft Power อย่างเต็มที่ พร้อมผลักดันให้ทุกจังหวัดนำเสนอเอกลักษณ์และความพิเศษของตนเอง เพื่อเป็นแรงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยขอให้แต่ละจังหวัดจัดกิจกรรมที่โดดเด่นและพิเศษขึ้นในทุก ๆ ปี เพื่อสร้างเสน่ห์เฉพาะตัวและกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ 


นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า คนไทย คือ Soft Power ที่สำคัญที่สุดของประเทศ ความน่ารัก ความมีไมตรี และความมีน้ำใจของคนไทย เป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจให้กับชาวต่างชาติ เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางกลับมาเยือนประเทศไทย แม้ว่าบางคนจะไม่สามารถสื่อสารภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษได้ แต่ก็ได้รับความช่วยเหลือและมิตรไมตรีจากคนไทยเสมอ ทั้งนี้ รัฐบาลมุ่งมั่นทำงานร่วมกับภาคเอกชนในการยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวไทยให้ดียิ่งขึ้น โดยขอความร่วมมือจากประชาชนในการเป็นเจ้าบ้านที่ดี สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ ของโลก สำหรับเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ จะยิ่งใหญ่และพิเศษกว่าทุกปีที่ผ่านมา ด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจมากขึ้น และมาตรการดูแลความปลอดภัยที่เข้มข้นขึ้น เพื่อให้ทั้งนักท่องเที่ยวและประชาชนได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด ขอเชิญชวนให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไป


นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ในปี 2566 ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้ประเพณีสงกรานต์ในประเทศไทย เป็นรายการตัวแทนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ซึ่งถือเป็นเกียรติและความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของพวกเราชาวไทย ในปีนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ร่วมบูรณาการกับ 28 หน่วยงานในการส่งเสริมประเพณีสงกรานต์ โดยจัดงาน "เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์" ทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิด "สงกรานต์บ้านฉัน สีสันแบบไทย สุขไกลทั่วโลก Once in a Lifetime : Experience Songkran in Thailand" เพื่อส่งเสริมประเพณีไทย นำเสนอความงดงามของวัฒนธรรมไทยและต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก มาร่วมสัมผัสประสบการณ์สงกรานต์ และร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลนี้อย่างยิ่งใหญ่ไปด้วยกัน


นางสาวสุดาวรรณ กล่าวอีกว่า กระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดงานสงกรานต์ในพื้นที่ 17 จังหวัด และ 4 จุด ในกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย 5 เมืองอัตลักษณ์ 12 เมืองน่าเที่ยว และ 4 จุดหมายหลักในกรุงเทพมหานคร โดยมุ่งเน้นการจัดงานตามอัตลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ด้วยบรรยากาศแบบดั้งเดิมที่เชื่อมโยงอดีตกับปัจจุบัน พร้อมมาตรการดูแลด้านความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม รวมทั้งเป็นเจ้าบ้านที่ดี ให้ทุกคนได้รับประสบการณ์ที่น่าประทับใจ


นางสาวสุดาวรรณ กล่าวต่อว่า กระทรวงวัฒนธรรมพร้อมด้วย 28 หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ได้ร่วมกันกำหนด 17 มาตรการรณรงค์การจัดงานและการร่วมงานประเพณีสงกรานต์ ใน 4 มิติ เพื่อเป็นแนวทางในการจัดงานประเพณีสงกรานต์ พุทธศักราช 2568 ทั้งมิติวัฒนธรรม มิติเศรษฐกิจ มิติสังคม และมิติสิ่งแวดล้อม โดยกระทรวงวัฒนธรรม คาดหวังผลในการส่งเสริมประเพณีสงกรานต์ในปีนี้ ให้คนไทยทั่วโลกภาคภูมิใจและร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ พร้อมยกระดับประเพณีสงกรานต์สู่ World Event เป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจหมุนเวียนเพิ่มมากขึ้นจากปีที่ผ่านมา


สุดท้าย นางสาวสุดาวรรณ ฝากถึงพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวว่าประเพณีสงกรานต์เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของไทยที่มีความหมายมากกว่าการเล่นน้ำ แต่เป็นเทศกาลแห่งความรัก ความกตัญญู และความอบอุ่นของครอบครัว ซึ่งควรค่าแก่การส่งต่อไปสู่สายตาชาวโลก "สงกรานต์ไทยคือมรดกทางวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และสืบทอดให้คนรุ่นหลัง เราต้องการให้สงกรานต์เป็นเทศกาลที่ทุกคนต้องมาเยือน อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต" 


นอกจากนี้ กระทรวงวัฒนธรรม ยังได้จัดทำบทเพลงสงกรานต์ 20 ภาษา สื่อสารไปทั่วโลก และขอความร่วมมือสถานทูตไทยในต่างประเทศช่วยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และส่งเสริมประเพณีสงกรานต์ในต่างประเทศ เช่น เผยแพร่องค์ความรู้และร่วมจัดประเพณีสงกรานต์กับชุมชนไทยในต่างประเทศ ร่วมทำคลิปอวยพร ส่งความสุข ความปรารถนาดี และร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ของไทย ประเพณีสงกรานต์มีคุณค่าทั้งต่อครอบครัว ชุมชน และสังคม ช่วงเทศกาลสงกรานต์ยังเป็นช่วงวันครอบครัว ซึ่งตรงกับวันที่ ๑๔ เมษายน ของทุกปี ประกอบกับประเพณีสงกรานต์ มีคุณค่าต่อครอบครัว ทำให้เกิดความรักความผูกพันในครอบครัว เช่น สมาชิกในครอบครัวมาทำบุญร่วมกัน ลูกหลานมารดน้ำขอพรจากพ่อแม่ เพื่อเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นปีใหม่ จึงขอเชิญชวนชาวไทย และครอบครัวไทย ร่วมกันสืบสานประเพณีสงกรานต์ของไทยกันทั่วประเทศ


อ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ..คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เขียนเลย
Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)