X
ชื่นชม.. เด็กไทยกวาด 10 รางวัลโครงงานวิทย์ ระดับโลก ISEF 2022

ชื่นชม.. เด็กไทยกวาด 10 รางวัลโครงงานวิทย์ ระดับโลก ISEF 2022

19 พ.ค. 2565
5360 views
ขนาดตัวอักษร

ผลจิกทะเล.. ไอเดียเล็ก ๆ ที่น่าทึ่ง.. หลายคนคิดไม่ถึง แต่กลับคว้า 2 รางวัลใหญ่ จาก 10 รางวัล โครงงานวิทยาศาสตร์ ระดับโลก ซึ่งเยาวชนไทยคนเก่ง กวาดรางวัลรวมกว่า 2.3 ล้านบาท ด้าน อว. เผยมี 2 ใน 10 คว้ารางวัลสุดปัง เป็นรางวัลที่มีผลกระทบสูง ในการสร้างแรงบันดาลใจ ให้กับคนรุ่นต่อไป และอีก 1 รางวัลพิเศษจาก สมาคมการวิจัยวิทยาศาสตร์ ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ขณะที่ นายกรัฐมนตรี กล่าวภูมิใจ พร้อมชื่นชมทุกคน สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ

นายกรัฐมนตรี ชื่นชมเด็กไทย คว้ารางวัลระดับโลก ประกวดโครงงานวิทย์-วิศวะ ชั้นมัธยม สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ มุ่งหวังพัฒนาความรู้ที่มีอยู่ ต่อยอดเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาประเทศชาติ



โดยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2565 เวลา 15.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้โอวาทคณะนักเรียนไทย ที่ได้รับรางวัลจากการเข้าประกวด และคว้ารางวัลในงาน “โครงงานวิทยาศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์ ระดับนานาชาติ ประจำปี 2022 (Regeneron ISEF 2022)” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 - 13 พฤษภาคม ณ เมืองแอตแลนตา มลรัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

โดยมีนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายอัมพร พินะสา เลขาธิการ คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, คณะผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ, คณะครูผู้ฝึกสอน และนักเรียนไทย ที่กลับจากการแข่งขันโครงงานวิทยาศาสตร์ฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี แสดงความยินดี กับคณะนักเรียนไทย ที่ได้รับรางวัลจากการเข้าประกวด และคว้ารางวัลในงาน โครงงานวิทยาศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์ ระดับนานาชาติ แสดงให้เห็นว่า ประเทศไทย ที่มีบุคลากร และทรัพยากรที่มีคุณภาพ ไม่น้อยหน้าไปกว่าประเทศอื่น โดยสิ่งที่น่าภูมิใจอย่างยิ่ง คือ



เยาวชนไทย เป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ ในด้านวิทยาศาสตร์ และการวิจัย ในการคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ สามารถเข้าร่วมประกวดโครงงานระดับโลก จนได้รับรางวัล ถือเป็นความก้าวหน้าสำคัญ ของการพัฒนา ด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศ ที่เยาวชนคนรุ่นใหม่ จะเข้ามามีบทบาทในการคิดค้นพัฒนา และขับเคลื่อนประเทศ ให้โครงงานวิทยาศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์ มีความเจริญก้าวหน้า และมีชื่อเสียง สอดคล้องกับการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า ตามนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะการมองอนาคต สร้างโอกาส ด้วยการพัฒนาองค์ความรู้ สร้างการวิจัย สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ด้วยการพัฒนาที่มีคุณภาพ เพื่อให้ประเทศไทย มีขีดความสามารถ ในการแข่งขันระดับสูง บนฐานของเทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อประเทศไทย มีการพัฒนาอย่างมั่นคง และยั่งยืน

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวย้ำว่า ทุกอย่างจะพัฒนาได้ด้วยคน และเยาวชนของเรา ที่จะทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้า อยู่ในระดับต้นของโลก โดยรัฐบาลให้ความสำคัญ ในการพัฒนากำลังคนของประเทศ ควบคู่กับการพัฒนาทางการศึกษา ให้เกิดการพัฒนาในพื้นที่ ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ให้กินดีอยู่ดี ประเทศเจริญเติบโต สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง ของโลกในอนาคต โดยเฉพาะการพัฒนา ให้มีความรู้เท่าทัน มีภูมิคุ้มกันที่ดี และได้รับความร่วมมือ จากประชาชนทุกช่วงวัย เพื่อทำให้ประเทศไทย มีความมั่นคงยั่งยืนต่อไป



ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรี ได้ชื่นชมทุกคน ที่ได้รับรางวัล และสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย และขอให้ทุกคนศึกษา พัฒนาความรู้ ที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องเพื่อต่อยอดเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาประเทศชาติ โดยย้ำถึงการนำศักยภาพ ที่ไทยมีอยู่ในด้านต่าง ๆ มาช่วยกันขับเคลื่อนประเทศ  รวมถึงศักยภาพของทุกคน มาเป็นกำลังสำคัญ ในการนำพาประเทศไทย ให้ผ่านพ้นวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้ได้ ตลอดจนการบูรณาการร่วมกัน ให้สามารถปรับตัวเข้าหากัน เข้าใจซึ่งกันและกัน เพื่อลดปัญหาที่เกิดจากความขัดแย้ง ลดลงมาให้ได้มากที่สุด เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย ตามที่เรากำหนดไว้




ในขณะที่ช่วงเช้า เวลา 10.00 น. วันเดียวกัน (18 พ.ค. 2565) ที่ สวทช. อาคารโยธี กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.), ดร.ชฎามาศ ธุวะเศรษฐกุล รองผู้อำนวยการ สวทช., รศ. ดร.บุญโชติ เผ่าสวัสดิ์ยรรยง อุปนายกสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, ดร.กรรณิการ์ เฉิน รองผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.), นายธีรวัฒน์ บุญสม ผู้อำนวยการกองส่งเสริม และสนับสนุนการวิจัย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.), นางสาวอารยา ภู่พานิช รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานกิจกรรมเพื่อสังคม ธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยตัวแทนนักวิทยาศาสตร์ และเยาวชนไทย ร่วมแถลงข่าว “ความสำเร็จนักวิทยาศาสตร์ ทีมเยาวชนประเทศไทย กวาด 10 รางวัล โครงงานวิทยาศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์ ระดับนานาชาติ” Regeneron International Science and Engineering Fair (Regeneron ISEF) 2022

ซึ่งเยาวชนไทย กวาดรางวัลระดับโลก มาถึง 10 รางวัล มูลค่ารวม 66,000 เหรียญสหรัฐ จากการแข่งขันในรายการ Regeneron ISEF 2022 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 - 13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ เมืองแอตแลนตา มลรัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา โดยปีนี้ มีโครงงานเข้าร่วมประกวด 1,410 ผลงานจากนักเรียน 1,750 คน จาก 63 ประเทศ และมลรัฐต่าง ๆ ทั่วประเทศ สหรัฐอเมริกา



ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า ในปีนี้ สวทช. และสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ คัดเลือก 16 ทีม 35 คน จากการประกวดโครงงาน ของนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ ครั้งที่ 24 (Young Scientist Competition, YSC 2022) ดำเนินการโดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และพันธมิตร ภายใต้การสนับสนุน งบประมาณจาก ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และจากค่ายนักวิทยาศาสตร์ รุ่นเยาว์แห่งชาติ ประจำปี 2564 (Thai Young Scientist Festival, TYSF 2022) ดำเนินการโดย สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ภายใต้การสนับสนุนจาก องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ได้ร่วมกันส่งคณะเยาวชนไทย เข้าร่วมการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์นานาชาติ หรือ Regeneron ISEF 2022 ซึ่งถือเป็นเวที ที่มีความสำคัญด้านการแข่งขัน โครงงานวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา ที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก เพื่อส่งเสริมความสามารถ ทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม โดยมีการจัดแข่งขันต่อเนื่อง เป็นประจำทุกปี มาถึง 72 ครั้ง

ผลปรากฏว่า ทีมเยาวชนไทย คว้ารางวัลใหญ่ คือ Grand Awards อันดับ 1 สาขาเวชศาสตร์ปริวรรต (Translational Medical Science) จากโครงงาน “เครื่องมือช่วยวินิจฉัยความเสี่ยง ในการเป็นมะเร็งท่อน้ำดี จากการตรวจหาไข่พยาธิใบไม้ตับ จากภาพถ่ายอุจจาระ และการวิเคราะห์ข้อมูล แบบประเมินความเสี่ยง ด้วยเทคโนโลยี AI” (BiDEx - A Bile Duct Cancer Analyzing Tool) จากทีม BiDEx จากโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย จ.เชียงใหม่ ผู้พัฒนา นางสาวนภัสสร หลิดชิววงศ์, นายกฤษ ฐิติจำเริญพร และนายวัฒนพงษ์ อุทธโยธา โดยมี นายกัมพล กันทะแก้ว และ นางรุ่งกานต์ วังบุญ อาจารย์ที่ปรึกษา

อีกทั้งยังได้รับรางวัลสำคัญอีก 1 รางวัล ที่ยกย่องให้กับโครงงานสร้างสรรค์ ที่มีผลกระทบสูงในการสร้างแรงบันดาลใจ ให้กับคนรุ่นต่อไป รับเงินรางวัลมูลค่า 50,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 1.7 ล้านบาท (The Gordon E. Moore Award for Positive Outcomes for Future Generations of $50,000) โดยผลงานดังกล่าว เป็นผลงานที่เคยได้รับรางวัล จากการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ ระดับประเทศ จากค่ายเวทีนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ ครั้งที่ 17 ประจำปี 2564



ดร.ณรงค์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีรางวัล Grand Awards อันดับที่ 1 อีกหนึ่งผลงาน ในสาขาชีววิทยาเชิงคำนวณ และชีวสารสนเทศศาสตร์ (Computational Biology and Bioinformatics) ได้แก่ โครงงาน “การทำนายความไวต่อยา ด้วยเทคนิคผสมผสาน Graph Attention Networks เพื่อเป็นทางเลือก สำหรับการรักษาโรคมะเร็ง ด้วยการแพทย์แบบแม่นยำ โดยใช้โครงสร้างโมเลกุลยา ร่วมกับข้อมูลทางเภสัชพันธุศาสตร์” ผู้พัฒนาได้แก่ นายภาวิต แก้วนุรัชดาสร, นายณัฐวินทร์ แย้มประเสริฐ, นายวุฒิพงศ์ จงเจริญสันติ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ จ.นครปฐม ซึ่งมี ดร.สาโรจน์ บุญเส็ง จากโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ และนายบัณฑิต บุญยฤทธิ์ จากสถาบันวิทยสิริเมธี เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา

และยังมีทีมเยาวชนไทย คว้ารางวัล Grand Awards อันดับต่าง ๆ อีก 5 รางวัล ประกอบด้วย

อันดับที่ 2 สาขาวิทยาศาสตร์โลก และสิ่งแวดล้อม (Earth and Environmental Sciences) จำนวน 1 รางวัล ได้แก่ โครงงานการพัฒนา นวัตกรรมซ่อมแซม แนวป่าชายเลนด้านใน ด้วยวัสดุปลูกลอยน้ำ เลียนแบบลักษณะโครงสร้างของ ผลจิกทะเล ผู้พัฒนาได้แก่ นายจิรพนธ์ เส็งหนองเเบน และนายฐิติพงศ์ หลานเดช จากโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ปทุมธานี โดยมีนายขุนทอง คล้ายทอง เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา และโครงงานดังกล่าวนี้ ยังคว้ารางวัลพิเศษ (Special Award) จาก Sigma Xi, The Scientific Research Honor Society สมาคมการวิจัยวิทยาศาสตร์ ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก อีกหนึ่งรางวัล

อันดับที่ 3 สาขาสัตวศาสตร์ (Animal Sciences) จำนวน 1 รางวัล ได้แก่ โครงงานการเพิ่มศักยภาพ ในการเลี้ยงจิ้งหรีด ด้วยแสงสี เพื่อลดอัตราการตาย จากพฤติกรรมการสลัดขาทิ้ง ผู้พัฒนาได้แก่ นางสาวจรัสณัฐ วงษ์กำปั่น และนางสาวมาริสา อรรจนานนท์ จากโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ปทุมธานี โดยมีนายขุนทอง คล้ายทอง เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา



อันดับที่ 4 จำนวน 3 รางวัล ได้แก่

1. โครงงานการพัฒนาต้นแบบ ชุดทดสอบเชิงสีชนิดใหม่ สำหรับไวรัสทั้งชนิด DNA และ RNA เพื่อรับมือกับโรคอุบัติใหม่ในอนาคต อย่างครอบคลุม (Sawasdee-AMP) สาขาชีวการแพทย์และสุขภาพ (Biomedical and Health Sciences) ผู้พัฒนาได้แก่ นายกุลพัชร ชนานำ, นางสาวปกิตตา เกรียงเกษม และนายคุณัชญ์ คงทอง จากโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ จ.นครปฐม โดยมี ดร.เกียรติภูมิ รอดพันธ์ จากโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ และ ดร.วันเสด็จ เจริญรัมย์ นักวิจัยไบโอเทค สวทช. เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา ทั้งนี้ โครงงานดังกล่าวนี้ ยังคว้าอีกหนึ่งรางวัลพิเศษ (Special Award) รางวัลที่ 1 สาขาการพัฒนาสุขภาพระดับโลก จาก USAID หรือ องค์การพัฒนา เพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ ของสหรัฐอเมริกา

2. โครงงานการแกว่งของลูกตุ้ม ที่มีกระแสลมรบกวน สาขาฟิสิกส์และดาราศาสตร์ (Physics and Astronomy) ผู้พัฒนาได้แก่ นายวิชยุตม์ นาคะศูนย์ จากโรงเรียนเบญจมราชูทิศ จ.นครศรีธรรมราช โดยมี นางซัลวาณีย์ เจ๊ะมะหมัด จากโรงเรียนเบญจมราชูทิศ และ รศ. ดร.กฤษณะเดช เจริญสุธาสินี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา

3. โครงงานการพัฒนาเข็ม ระดับไมโคร เพื่อการตรวจวัดแบบ non-invasive ของสารครีเอตินิน ในของเหลวระหว่างเซลล์ สู่นวัตกรรมการประเมินโรคไต แบบพกพา” สาขาวิศวกรรมชีวการแพทย์ (Biomedical Engineering) ผู้พัฒนาได้แก่ นายพีรทัตต์ ลาภณรงค์ชัย และ นายธนพัฒน์ รีชีวะ จากโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ จ.นครปฐม โดยมี ดร.เกียรติภูมิ รอดพันธ์ จากโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ และ ดร.ธิติกร บุญคุ้ม นักวิจัยนาโนเทค สวทช. เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา



อ้างอิง และขอบคุณข้อมูล จาก :

เว็บไซต์ : รัฐบาลไทย
https://www.thaigov.go.th

เฟซบุ๊ก : ไทยคู่ฟ้า
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman

เฟซบุ๊ก : กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม
https://www.facebook.com/MHESIThailand



อ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ..คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เขียนเลย
Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)