23 ก.ค.64 - มหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ “โอลิมปิก โตเกียวเกมส์ 2020” จะเปิดฉากเริ่มการแข่งขันอย่างเป็นทางการมนวันนี้ มาทำความรู้จักกับโอลิมปิก เกมส์ ครั้งนี้ และร่วมเชียร์นักกีฬาไทยไปด้วยกัน กับBackBone MCOT
อีกไม่กี่ชั่วโมง ไฟจากคบเพลิงมหกรรมกีฬาโอลิมปิก เกมส์ จะถูกจุดขึ้น ณ สนามโอลิมปิก สเตเดียม กรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น เป็นสัญลักษณ์ประกาศว่า การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 32 หรือ โอลิมปิกโตเกียวเกมส์ 2020 ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งไฟโอลิมปิกจะลุกโชติช่วง ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม - 8 สิงหาคม 2564 ที่นักกีฬากว่า12,000 คน จากกว่า 200 ประเทศทั่วโลก จะต้องแสดงฝีไม้ลายมือด้านกีฬา ชิงชัยเป็นที่ 1 ของกีฬาแต่ละชนิด
ซึ่งโอลิมปิก เกมส์ ครั้งนี้ต้องเลื่อนการจัดแข่งขันจากปี 2020 มาในปี 2021 แทน จากการระบาดของโควิด-19 ซึ่งตลอดระยะทางเจ้าภาพประเทศญี่ปุ่นต้องลุ้นอยู่ตลอดว่าโอลิมปิกที่พวกเขาตั้งใจทำให้เป็นโอลิมปิกครั้งหนึ่งที่ดีที่สุด จะมาถึงปลายทางได้หรือไม่ ซึ่งก็พิสูจน์แล้วว่าการแข่งขันโอลิมปิก โตเกียวเกมส์ 2020 จะเริ่มขึ้นแล้ว ทำให้โตเกียว กลายเป็นเมืองที่ 5 ของโลก และเป็นเมืองที่ 1 ในทวีปเอเชีย ที่ได้จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนมากกว่า 1 ครั้ง
โดยยังเข้มงวดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดสูงสุด ซึ่งนักกีฬากว่า 80% จะได้รับวัคซีน ที่มีพื้นที่ฝึกซ้อมเฉพาะภายในบริเวณที่กำหนด อีกทั้งมีมาตรการป้องกันไม่ให้นักกีฬาพบปะกับคนท้องถิ่นได้ โดยเฉพาะโตเกียวที่อยู่ในภาวะฉุกเฉิน ผู้ชมถูกห้ามไม่ให้เข้าสถานที่จัดการแข่งขันกีฬา ส่วนสถานที่จัดการแข่งขันบางแห่งในเมืองอื่น ๆ อาจอนุญาตให้มีผู้ชมได้ แต่เข้าได้เพียง 50% ของความจุสนามและจำกัดจำนวนสูงสุดไม่เกิน 10,000 คน หากสถานการณ์การระบาดรุนแรง ก็สามารถปรับเหลือจำนวนผู้ชมเป็นศูนย์ได้
สำหรับกีฬาโอลิมปิก 2020 มีการแข่งขันทั้งหมด 33 ชนิดกีฬา รวม 339 รายการ ใน 42 สนามทั่วญี่ปุ่น มี 5 ชนิดกีฬาใหม่ ที่ถูกบรรจุเพิ่มเข้าไป ประกอบด้วย สเกตบอร์ด ปีนหน้าผา, เบสบอลและซอฟต์บอล, คาราเต้ และกระดานโต้คลื่น
ซึ่งโอลิมปิก 2020 ครั้งที่ 32 นี้ ประเทศไทยได้ส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน เพื่อชิงเหรียญทองด้วยเช่นกัน โดยมีนักกีฬาไทยผ่านการคัดเลือกและได้สิทธิ์เข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์รอบสุดท้าย 37 โควตา จำนวน 42 คน จาก 14 ชนิดกีฬา ได้แก่ ยิงปืน&ยิงเป้าบิน , ขี่ม้า , เทควันโด , จักรยาน , เรือใบ&วินด์เซิร์ฟ , มวยสากล , กรีฑา , เทเบิลเทนนิส , เรือแคนู , เรือกรรเชียง , กอล์ฟ , ยูโด , ว่ายน้ำและแบดมินตัน
โดยมีรายชื่อนักกีฬา ที่คนไทยต้องตามลุ้นให้กำลังใจ ดังนี้
1. เศวต เศรษฐาภรณ์ (ยิงเป้าบิน)
2. กมลวรรณ จันทร์ยิ้ม (เรือใบ)
3. ศิริพร แก้วดวงงาม (วินด์เซิร์ฟ)
4. จุฑาธิป มณีพันธุ์ (จักรยาน)
5. อิสรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร์ (ยิงปืน)
6. ณภัสวรรณ หย่างไพบูลย์ (ยิงปืน)
7. ธันยพร พฤกษากร (ยิงปืน)
8. สุธิยา จิวเฉลิมมิตร (ยิงเป้าบิน)
9. อิศราภา อิ่มประเสริฐสุข (ยิงเป้าบิน)
10. วีรภัฎ ปิฏกานนท์, อารีย์ณัฏฐา ชวตานนท์, กรธวัช สำราญ (ขี่ม้าอีเว้นท์ติ้ง ประเภททีม)
11. พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ (เทควันโด)
12. ใบสน มณีก้อน (มวยสากล)
13. ธิติสรรค์ ปั้นโหมด (มวยสากล)
14. สุดาพร สีสอนดี (มวยสากล)
15. ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี (มวยสากล)
16. คีริน ตันติเวทย์ (กรีฑา)
17. สุธาสินี เสวตรบุตร (เทเบิลเทนนิส)
18. อรวรรณ พาระนัง (เทเบิลเทนนิส)
19. ณัฐพงษ์ โพธิ์นพรัตน์ (วินด์เซิร์ฟ)
20. อรสา เที่ยงกระโทก (เรือแคนู)
21. ศิวกร วงศ์พิณ-นวมินทร์ ดีน้อย (เรือกรรเชียง ชาย พายคู่)
22. รามณรงค์ เสวกวิหารี (เทควันโด)
23. จุฑามาศ จิตรพงศ์ (มวยสากล)
24. ชุติกาญจน์ กิจวานิชเสถียร (จักรยาน)
25. อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ (กอล์ฟชาย)
26. กัญจน์ เจริญกุล (กอล์ฟชาย)
27. ปภังกร ธวัชธนกิจ (กอล์ฟหญิง)
28. เอรียา จุฑานุกาล (กอล์ฟหญิง)
29. กชกร วรสีหะ (ยูโด)
30. นวพรรษ วงค์เจริญ (ว่ายน้ำ)
31. เจนจิรา ศรีสอาด (ว่ายน้ำ)
32. สุเบญรัตน์ อินแสง (ขว้างจักรหญิง)
33. กันตภณ หวังเจริญ (แบดมินตัน ชายเดี่ยว)
34. รัชนก อินทนนท์ (แบดมินตัน หญิงเดี่ยว)
35. บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธ์ุ (แบดมินตัน หญิงเดี่ยว)
36. จงกลพรรณ กิติธรากุล - รวินดา ประจงใจ (แบดมินตัน หญิงคู่)
37. เดชาพล พัววรานุเคราะห์ - ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย (แบดมินตัน คู่ผสม)
ด้าน “บิ๊กต้อม” ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย ได้มอบหมายให้ “แซม” เศวต เศรษฐาภรณ์ นักกีฬายิงเป้าบิน ประเภทแทร็ป วัย 58 ปี และ “เอิน” ณภัสวรรณ หย่างไพบูลย์ นักกีฬายิงปืน ประเภทปืนสั้นสตรี 25 ม. วัย 33 ปี ทำหน้าที่ถือธงไตรรงค์ ในค่ำคืนพิธีเปิดวันนี้ เดินนำขบวนพาเหรดกองทัพนักกีฬาไทยลงสู่สนามเป็นลำดับที่ 102 จากทั้งหมด 205 ชาติ ตามการจัดอันดับตัวอักษรของภาษาญี่ปุ่น
และอีกไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้สำหรับกีฬาโอลิมปิก ทุกครั้ง นั้นคือมาสคอตนำโชค เจ้าภาพได้เลือกให้ มิไรโทวะ(Miraitowa) เป็นมาสคอตโอลิมปิกตัวที่ 26 ของโลก ที่มีกลิ่นอายของความดั้งเดิม สะท้อนวัฒนธรรมของญี่ปุ่น จากลวดลายอิจิมัตสึสีคราม ที่เป็นลวดลายโบราณของญี่ปุ่น ผสมความทันสมัยสุดล้ำ
สำหรับมิไรโทวะ มาสคอตโอลิมปิกครั้งนี้ จากการส่งเข้าประกวดของประชาชนทั่วไป ที่ได้รับการโหวตโดยนักเรียนประถมชาวญี่ปุ่นจาก 16,700 โรงเรียนทั้งในและนอกประเทศ แสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมของชาวญี่ปุ่นทุกคนในการจัดงานโอลิมปิกครั้งนี้
เกร็ดเล็กๆ จากชื่อของ Miraitowa นั้นมาจากคำสองคำที่มีความหมายดีงาม คือ Mirai ที่แปลว่า ‘อนาคต’ ส่วน Towa ที่แปลว่า ‘นิรันดร์’ เมื่อนำมารวมกันแล้ว “มิไรโทวะ” แปลได้ว่า เป็นตัวแทนของอนาคตที่เต็มไปด้วยความหวังนิรันดร์ในหัวใจของผู้คนทั่วโลก
การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 จะเริ่มเปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการ ในเวลา 18.00 -21.00 น. ตามเวลาไทยในพิธีเปิดคณะกรรมการจัดการแข่งขันโอลิมปิก โตเกียว 2020 นำแนวคิด “Moving Forward” หรือ “ก้าวไปข้างหน้า” เพื่อสื่อถึงการก้าวผ่านไปสู่การฟื้นตัวจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดทั่วโลก โดยใช้แนวคิดการนำความหวังใหม่ และกำลังใจมาสู่ผู้คนทั่วโลกผ่านการปรากฏตัวของนักกีฬาในโตเกียว 2020 ในธีมคำว่า “United by Emotion” หรือ “รวมกันเป็นหนึ่งเดียว”
ทั้งนี้สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ แห่งญี่ปุ่น จะเป็นผู้ประกาศถ้อยคำแถลงเปิดการแข่งขันจำนวน 17 คำ ซึ่งกำหนดเอาไว้ในกฎบัตรโอลิมปิก โดยจะเป็นรุ่นที่ 3 แห่งราชวงศ์ญี่ปุ่น ที่จะเปิดการแข่งขันโอลิมปิกต่อจากพระอัยยาจักรพรรดิฮิโรฮิโตะ (รุ่นปู่) ในโอลิมปิกครั้งก่อนที่กรุงโตเกียว เมื่อปี 1964, โอลิมปิกฤดูหนาว ที่ซัปโปโร เมื่อปี 1972 และพระราชบิดา จักรพรรดิอากิฮิโตะ ในโอลิมปิกฤดูกาลหนาว เมื่อปี 1998
สำหรับแฟนๆ กีฬาชาวไทย สามารถรับชมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 ได้ทาง True4U, NBT และThaiPBS โดยทั้ง 3 ช่องจะเริ่มยิงสดการแข่งขัน ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึงวันที่ 21.00 น. นอกจากยังสามารถรับชมพิธีเปิดได้ผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ใน AIS PLAY และจอดิจิทัลแพลนบี ทั่วประเทศ
พร้อมติดตามการถ่ายทอดสดโอลิมปิกเกมส์ 2020 ได้ทุกวันทาง T-Sports ร่วมด้วย Thai PBS, NBT, PPTV, JKN 18, ทรูโฟร์ยู 24, GMMTV 25 และ AIS PLAY ตั้งวันที่ 23 ก.ค.-8 ส.ค. 64 และเช็กโปรแกรมถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาทุกประเภทกีฬา ได้ที่ stadiumth.com/olympic