ม.ค.68 - 31 ปี สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA) แห่งการต่อสู้เพื่อสวัสดิภาพสัตว์
ปัจจุบันกิจกรรมที่เกี่ยวกับสัตว์ได้รับความสนใจ จากประชาชนและสื่อมวลชนอย่างกว้างขวาง ทั้งในแง่สังคม เศรษฐกิจ การเลี้ยงดูและกฎหมาย โดยเฉพาะพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 ที่มีการเริ่มต้นผลักดันจากองค์กรภาคเอกชน คือ สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย หรือ TSPCA (Thai Society for the Prevention of Cruelty to Animals) ซึ่งก่อตั้งเมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ.2537 หรือครบรอบ 31 ปีแห่งการก่อตั้ง โดยมีคุณธีระพงศ์ ปังศรีวงศ์ เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นผู้อุปถัมภ์หลักกิจกรรมของสมาคมฯ อย่างต่อเนื่อง
รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ อุปนายก TSPCA และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ประทับใจที่เป็นองค์กรการกุศล ซึ่งก่อตั้งโดยคุณธีระพงศ์ ปังศรีวงศ์ นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ได้เสียสละนำเงินส่วนตัวมาช่วยเหลือสังคมเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง 31 ปีแห่งการต่อสู้เพื่อสวัสดิภาพสัตว์ โดยมีการบริจาคมากกว่า 100 ล้านบาท เพื่อสร้าง “คุณค่า คุณธรรม และคุณประโยชน์” ให้เกิดขึ้นกับสรรพสัตว์น้อยใหญ่ ในการรักษาดุลยภาพทางสังคม ลดการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควรและพัฒนาการจัดสวัสดิภาพสัตว์ให้ดียิ่งขึ้นเพื่อความยั่งยืนต่อเนื่อง
ย้อนกลับไปเมื่อ 31 ปีก่อน เรื่องที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ยังไม่ค่อยแพร่หลาย องค์กรที่ช่วยเหลือสัตว์มีจำนวนไม่กี่องค์กร แต่ TSPCA เริ่มต้นจากการเป็นผู้นำในการผลักดันนโยบายสาธารณะสำคัญหลายๆ วาระ ที่ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะด้านการรณรงค์ให้มีกฎหมายป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ ซึ่งทราบว่าตั้งแต่วันแรกที่ตั้งสมาคมฯ เมื่อ 31 ปีที่แล้ว มีการประชุมวางนโยบายและดำเนินการผลักดันอย่างต่อเนื่องจนสำเร็จ ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างคุณูปการอันสำคัญต่อประเทศไทย เพราะก่อนหน้านี้ยังไม่มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องเฉพาะดังกล่าวนี้ ต่างประเทศก็มักหยิบยกกรณีการทารุณสัตว์ขึ้นมาเป็นข้ออ้างโจมตีประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยสูญเสียภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก อีกทั้งผลกระทบต่อสินค้าบางประเภทก็ส่งออกหรือจำหน่ายไม่ได้
•
การมีกฎหมายเฉพาะดังกล่าวนั้น ก็เป็นการยกระดับการป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ของไทย จะส่งผลด้านคุณภาพชีวิตและความปลอดภัย รวมทั้งสุขภาวะโดยเฉพาะปัญหาที่เกี่ยวกับโรคระบาดหลายโรค ที่อาจจะมีจุดกำเนิดจากสัตว์และแพร่กระจายสู่คน และเสริมสร้างภาพลักษณ์อันดีในการปฏิบัติต่อสัตว์ ไม่ให้นานาอารยประเทศถือเป็นข้ออ้างในการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศได้
•
TSPCA ยังมุ่งเน้นด้านการศึกษาในการปลูกฝังค่านิยม ให้กับเด็ก เยาวชน และประชาชน ให้มีจิตสำนึกเมตตากรุณาต่อสัตว์และรักสัตว์อย่างรับผิดชอบ โดยเป็นองค์กรภาคเอกชนแห่งแรกๆ ของประเทศไทยที่ได้ริเริ่มดำเนินกิจกรรมรักสัตว์ในโรงเรียน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 เป็นต้นมาจนปัจจุบัน ได้ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ โดยคุณหญิง ดร.กษมา วรวรรณ ณ อยุธยา นำกิจกรรมโครงการ “รักสัตว์ในโรงเรียน” ออกเผยแพร่ตามโรงเรียนต่าง ๆ ที่สังกัดภายใต้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และจัดพิมพ์หนังสือเสริมสร้างประสบกาณ์ด้านการป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ ทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง จำนวน 8 เล่ม และแจกจ่ายให้โรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ TSPCA ยังได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ (สลช.) กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อบูรณาการเกี่ยวกับการส่งเสริมสวัสดิภาพและป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ เข้าสู่ระบบการเรียนการสอนลูกเสือในระดับต่าง ๆ ภายใต้กฎลูกเสือข้อ 6 “ลูกเสือมีความเมตตากรุณาต่อสัตว์” โดยมีการจัดตั้งสโมสรลูกเสือสวัสดิภาพสัตว์
•
และร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในการขอมติมหาเถรสมาคม ที่ 410/2561 ในการจัดทำหลักเกณฑ์ วิธีการ ในการปล่อยสัตว์ในวัด มีการติดตามประเด็นทางสังคม (HOT ISSUE) และรับข้อร้องเรียน รวมทั้งประสานงานลงพื้นที่ในการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีการจัดกิจกรรมรณรงค์ เช่น “ทำบุญ ไม่ทารุณสัตว์” “ปล่อยนก บุญหรือบาป?” และ “รักไม่ปล่อย” เป็นต้น
•
นอกจากการบริหารภายใต้การนำของ คุณธีระพงศ์ ปังศรีวงศ์ นายก TSPCA คณะกรรมการบริหารและที่ปรึกษาก็มีส่วนสำคัญในการผลักดันกิจกรรมต่างๆ ของสมาคมฯ เช่น รศ.น.สพ.ปานเทพ รัตนากร ซึ่งได้รับรางวัลระดับโลก "WORLD VETERINARY ASSOCIATION ANIMAL WELFARE AWARDS 2019" ดร.น.สพ.อลงกรณ์ มหรรณพ ผู้เชี่ยวชาญด้านช้าง ศ.สพ.ญ.ดร.อัจฉริยา ไศละสูต ผู้อำนวยการสำนักงานองค์การสมาพันธ์สมาคมสัตวแพทย์แห่งเอเชีย ประเทศไทย คุณสวรรค์ แสงบัลลังค์ อดีตเลขาธิการและผู้อำนวยการสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย และผู้รวบรวมรายชื่อ 12,000 คน ในการนำเสนอร่างกฎหมายป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ภาคประชาชนซึ่งมีฉบับเดียวต่อรัฐสภา นอกจากนี้ TSPCA ยังทำงานร่วมกับองค์กรเครือข่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ หรือ IUCN ซึ่งมีเครือข่ายด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติทั่วโลก