X
“แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์” คำสอนพระเจ้าตาถึงสุดสาคร | คำไทยรู้ไว้ใช้ถูกต้อง

“แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์” คำสอนพระเจ้าตาถึงสุดสาคร | คำไทยรู้ไว้ใช้ถูกต้อง

24 ก.ค. 2566
79240 views
ขนาดตัวอักษร

“...แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด…” ช่วงนี้หลายคนคงได้เห็นคำกลอนนี้ผ่านตากันมาบ้าง แต่ยังไม่รู้ว่ามาจากวรรณคดีเรื่องอะไร น้องบัวบานจึงขอพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับ “พระอภัยมณี” หนึ่งในผลงานชิ้นเอกของสุนทรภู่ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นยอดวรรณคดีประเภทกลอนนิทานกันค่ะ


“พระอภัยมณี” หนึ่งในผลงานชิ้นเอกของสุนทรภู่ กวีเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งเป็นวรรณคดีประเภทกลอนนิทาน บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางผจญภัยของตัวละครหลัก “พระอภัยมณี” ที่ได้รับการยกย่องจากวรรณคดีสโมสรว่าให้เป็นยอดของวรรณคดีประเภทนิทานคำกลอนอีกด้วย

(อ่าน : “พระอภัยมณี” ของ ‘สุนทรภู่’ ยอดวรรณคดีประเภทกลอนนิทาน)


บทกลอนที่ทุกคนเห็นกันผ่านตากันมานั้น มาจากตอนที่พระฤาษีสอนสุดสาคร เป็นเหตุการณ์หลังจากสุดสาครถูกชีเปลือยผลักตกหน้าผา แย่งเอาม้านิลมังกรและไม้เท้ากายสิทธิ์ไป จนกระทั่งพระฤาษีก็ตามมาช่วยได้ทันจึงได้กล่าวสอนสุดสาคร จนกลายเป็นบทกลอนสอนใจที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในวรรคทองของวรรณคดีที่ใครหลาย ๆ คนจะต้องเคยได้ยินกันแน่นอน วันนี้น้องบัวบานจึงขอมาเล่าเรื่องเหตุการณ์ตั้งแต่สุดสาครเกิด จนกระทั่งถูกชีเปลือยผลักตกหน้าผาให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ


ภาพจากหนังสือวรรณคดีลำนำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2554


ภาพจากหนังสือวรรณคดีลำนำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2554


    รื่องราวของสุดสาครเริ่มต้นขึ้นเมื่อนางเงือกได้อาศัยอยู่บนเกาะแก้วพิสดาร และให้กำเนิดลูกชายชื่อว่า “สุดสาคร” พระฤาษีเป็นผู้เลี้ยงดูสุดสาคร จนกระทั่งอายุได้ 3 ขวบ วันหนึ่งสุดสาครออกไปเที่ยวเล่นจนกระทั่งได้เจอกับ “ม้านิลมังกร” พระฤาษีจึงเสกหวายให้สุดสาครนำไปจับม้านิลมังกรมาใช้เป็นพาหนะเพื่อใช้ออกเดินทางตามหาพระบิดา โดยพระฤาษีได้เล่าเรื่องของ “พระอภัยมณี” ผู้เป็นบิดาให้สุดสาครฟัง สุดสาครจึงขอออกตามหาพระบิดา และได้ร่ำลานางเงือกผู้เป็นมารดาก่อนออกเดินทาง


ภาพจากหนังสือวรรณคดีลำนำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2554


สุดสาครออกผจญภัยจนได้พบกับ “ชีเปลือย” ซึ่งเป็นพราหมณ์แขกเทศ มีอายุมากแล้ว ครั้งหนึ่งชีเปลือยโดยสารเรือ เมื่อเรือแตกชีเปลือยไปติดอยู่ที่เกาะพนมเพียงลำพัง พวกชาวเรือที่ผ่านมาหลงเชื่อว่าเป็นผู้วิเศษ มีผู้สร้างกุฏิให้อยู่แล้วนับถือเรียกว่าชีเปลือย ชีเปลือยกำลังนอนหลับอยู่สุดสาครมองเห็นก็ได้แต่สงสัยว่าทำไมไม่ใส่เสื้อผ้า คิดไปว่าเป็นคนบ้าหรือว่าเป็นผู้ถือศีลและได้ร้องเรียกให้ชีเปลือยตื่น เมื่อตื่นมาแล้วได้เห็นฤาษีตัวน้อยก็ไม่ชอบ เห็นขี่ม้ามังกรรมีหางเหมือนงูก็ได้ถามสุดสาครว่ามาจากไหน และตัวที่ขี่อยู่นี่คืออะไร อยากจะรู้ สุดสาครจึงตอบกลับไปว่าให้ชีเปลือยบอกมาก่อนว่าเป็นใคร ทำไมถึงมานอนแก้ผ้าน่าอาย


ภาพจากหนังสือวรรณคดีลำนำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2554

ชีเปลือยได้ฟังก็หลอกสุดสาครว่า ตนนั้นเป็นผู้วิเศษ ที่สละทุกสิ่งแม้กระทั่งเสื้อผ้า เมื่อสุดสาครได้ฟังก็หลงเชื่อ จึงลงจากม้าไปถามข่าวคราวของพระอภัยมณีกับชีเปลือย เมื่อได้ฟังดังนั้นชีเปลือยจึงหลอกสุดสาครต่ออีกว่าทางข้างหน้านั้นมีน้ำกรดลึก เป็นเหว จะต้องใช้เวทมนต์ในการข้ามไปเพื่อไม่ให้ตาย สุดสาครมีวิชาที่จะข้ามไปหรือยัง

    

เมื่อสุดสาครได้ฟังดังนั้น ด้วยความที่ยังเป็นเด็กจึงหลงเชื่อ และขอให้ชีเปลือยช่วยสอนมนต์แก้กรดบทนี้ให้ ชีเปลือยก็รู้แล้วว่าจะสามารถหลอกสุดสาครได้ คิดว่าจะหลอกเอาไม้เท้าของสุดสาคร และได้ขี่ม้านิลมังกร จึงทำทีเป็นตอบไปว่าจะช่วยสอนให้ โดยให้ขึ้นไปบอกมนต์กันเขา ให้สุดสาครนั่งไหว้และวางไม้เท้าไว้ข้างกาย ชีเปลือยจึงฉวยโอกาสผลักสุดสาครตกเหว แล้วชิงม้านิลมังกรไปอวดอ้างอิทธิฤทธิ์ให้ชาวเมืองการเวกดู


สุดสาครเมื่อถูกชีเปลือยผลักตกเหวมาแล้วนั้น ด้วยมนต์ที่ทำให้ปลอดภัยจึงไม่ตาย แค่สลบไปเท่านั้น เมื่อฟื้นขึ้นมาจะปีนกลับขึ้นไปก็หมดแรงเพราะความหิว สุดสาครร้องไห้อยากจะไปเจอบิดา และนึกถึงพระเจ้าตาที่เคยสั่งสอนและคอยช่วยเหลือ แต่ในครั้งนี้พระเจ้าตาคงมาช่วยไม่ได้เพราะอยู่ไกลและไม่มีใครไปบอก อีกทั้งยังสงสารแม่เงือกที่จะคิดถึงตนเอง สุดสาครอยากกินนมแม่ คิดถึงแม่ และตัดพ้อว่าตนเองนั้นเกิดมาได้แค่สามปียังไม่ทันได้ทดแทนบุญคุณแม่ สุดสาครร้องไห้พลันได้ยินเสียงม้าร้อง จึงบอกว่าให้ไปบอกท่านตามาช่วยด้วย 


ทันใดนั้นท่านตาก็ขี่สายรุ้งออกมาประคองสุดสาครขึ้นไปบนภูเขา แล้วสอนสุดสาครว่า อย่าไว้ใจมนุษย์มาก จิตใจมนุษย์นั้นลึกล้ำ แม้เถาวัลย์ที่พันกัน ก็ยังไม่คดเหมือนกับใจคน และยังสอนสุดสาครอีกว่าให้คิดให้รอบคอบ รู้วิชา และรู้จักเอาตัวรอด ดังคำกลอนที่เป็นวรรค์ตอนที่ว่า



ภาพจากหนังสือวรรณคดีลำนำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2554


๏ บัดเดี๋ยวดังหงั่งเหง่งวังเวงแว่ว สะดุ้งแล้วเหลียวแลชะแง้หา

เห็นโยคีขี่รุ้งพุ่งออกมา ประคองพาขึ้นไปจนบนบรรพต

แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด

ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด            ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน

มนุษย์นี้ที่รักอยู่สองสถาน บิดามารดารักมักเป็นผล

ที่พึ่งหนึ่งพึ่งได้แต่กายตน เกิดเป็นคนคิดเห็นจึงเจรจา

แม้นใครรักรักมั่งชังชังตอบ ให้รอบคอบคิดอ่านนะหลานหนา

รู้สิ่งไรไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี

จงคิดตามไปเอาไม้เท้าเถิด จะประเสริฐสมรักเป็นศักดิ์ศรี

พอเสร็จคำสำแดงแจ้งคดี                รูปโยคีหายวับไปกับตา ฯ

ขอขอบคุณ

Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)